วงการพระเครื่องนั้น หรือเซียนพระต่างๆ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มลองศึกษาอาจจะมีความยากในการศึกษา เพราะเราต้องเข้าใจลึกถึงรายละเอียดพระชนิดต่างๆ ไม่ใช่แค่เรารู้ว่าสรรพคุณอะไร มีความขลังขนาดไหน หรืออะไรที่คนไทยนิยมบูชา ดังนั้นก่อนที่จะไปเจาะลึกเรื่องอื่นๆ อันดับแรกพี่แคชว่าเราควรจะดูพระให้เป็นก่อนว่า เนื้อพระเครื่องชนิดต่างๆ นั้นมีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร เริ่มต้นที่ 5 ชนิดนี้กันก่อนเลยครับ
1. พระเนื้อผง
เริ่มต้นด้วยพระเครื่องที่มีให้พบเห็นค่อนข้างบ่อน นั่นคือ พระเนื้อผง ที่เป็นการทำขึ้นจากหลวงพ่อวัดต่างๆ โดยใช้วัสดุที่เป็นผงพุทธคุณที่มีการเรียกสูตรเพิ่มความขลังเขียนอักระเลขยันต์ต่างๆ และการบริกรรมสูตรพระคาถาลงไป ด้วยดินสอผงวิเศษ จากนั้นนำผงนั้นมาหล่อปั้นเป็นพระ หรือจ้างโรงงานปั๊มพระออกมาเป็นรูปแบบที่ต้องการ เช่น พระสมเด็จ พระหลวงพ่อคูณ พระหลวงปู่โต๊ะ พระหลวงปู่ทิม เป็นต้น ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะนำมาผ่านการปลุกเสกจากพระอาจารย์ชื่อดัง เพื่อให้เกิดความขลังในแบบที่คุณต้องการ ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากเนื้อปูน พระเนื้อผงเป็นพระที่เริ่มมีมาไม่นาน ในช่วงยุครัตนโกสินทร์เท่านั้น
2. พระเนื้อดิน
พระเนื้อดินนี้เป็นพระที่มีอายุการสร้างเก่าแก่มากที่สุด เป็นการนำดินที่เป็นวัสดุหาง่าย แต่มีความทนทาน มาสร้างสรรค์ปฏิมากรรมเป็นรูปร่าง ซึ่งมนุษย์เรามีความเชื่อมาตั้งแต่อดีตว่า ดิน เป็นดั่งเทพเจ้าที่มีคุณอเนกอนันต์อย่างมาก ซึ่งแน่นอนครับว่าดินที่นำมาสร้างพระนี้ต้องเป็นดินที่มาจากศาสนสถานที่สำคัญ หรือศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งพระเนื้อดินนั้นสามารถผสมสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆ ในการปั้นได้เลย เพื่อให้มีอิทธิฤทธิ์แรงกล้า เมื่อได้วัตถุดิบที่ต้องการแล้ว ก็จะนำสิ่งเหล่านั้นมาผสมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วไปกดลงในแม่พิมพ์ ถ้าเผาให้แห้ง จะเรียกพระดินเผา หรือถ้าปล่อยให้แห้งเอง ก็จะเรียกพระดินดิบ ซึ่งจะทำให้ได้พระเนื้อดินที่มีพระเดชพระคุณ เหมือนเช่น พระขุนแผนบ้านกร่าง นางพญาพิษณุโลก หรือ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน เป็นต้น
3. พระเนื้อชิน
คำว่าชิน ในพจนานุกรมแปลว่า แร่ตะกั่วชนิดหนึ่ง ซึ่งพระเนื้อชินก็คือ พระที่มีโลหะผสม มีแร่ตะกั่วรวมอยู่ แบ่งได้ 3 แบบคือ
-เนื้อชินตะกั่ว เป็นพระเนื้อชินที่มีแร่ตะกั่วมากกว่าแร่ชนิดอื่น ถ้ามีอายุมากจะเกิดสนิมได้ง่าย และอาจเกิดการแตกรานแบบใยแมงมุม
-เนื้อชินเงิน เป็นพระเนื้อชินที่มีเนื้อในสีขาวคล้ายเงินยวง มีส่วนผสมของตะกั่วกับดีบุกเป็นหลัก
-เนื้อชินเขียว เป็นพระเนื้อชินที่มีส่วนผสมระหว่างแร่ตะกั่วกับแร่สังกะสี ทำให้ได้สีออกเขียวปนดำ ถ้ามอายุมากเนื้อพระจะแห้ง เป็นสีดำ
พระชินส่วนใหญ่จะเป็นพระกรุรุ่นเก่า ที่มีอายุมากเป็นร้อยปีขึ้นไป คือผสมพระเข้ากับแร่ต่างๆ ตามสูตรโบราณ แล้วฝังกรุ ซึ่งพอคนไปขุดพบขึ้นมาก็นำมาแขวน หรือขาย เช่น พระร่วง พระมเหศวร ซึ่งในปัจจุบันจะไม่นิยมสร้างพระเครื่องเนื้อนี้อีกแล้วครับ
4. พระเนื้อโลหะ
พระเนื้อโลหะนี้จะคล้ายๆ กับเนื้อชิน ตรงที่เป็นการนำส่วนผสมต่างๆ ที่มีความสำคัญนำมาผสมรวมกันกับโลหะ สร้างพระใหม่ขึ้นมา ซึ่งมี 4 ชนิดด้วยกัน คือ
1. พระเนื้อทองคำ
2. พระเนื้อเงิน
3. พระเนื้อทองแดง
4. พระเนื้อตะกั่ว
สังเกตง่ายๆ พระเนื้อโลหะก็คือ เช่น พระรูปหล่อ เหรียญต่างๆ พระกริ่ง พระบูชาตามยุคต่างๆ เช่น เชียงแสน อยุธยา รัตนโกสินทร์ เป็นต้น
5. พระเนื้อว่าน
ตั้งแต่อดีตโบราณมาแล้วคนไทยเราก็มีความผูกพันกับไม้ตระกูลว่านมานานแล้ว ทั้งเอามาใช้ทำยา แถมยังเชื่อว่าพืชตระกูลนี้จะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน เป็นสิริมงคลกับชีวิต ดังนั้นจึงมีการสร้างสิ่งมงคลในรูปแบบพระเครื่องที่ทำจากว่านเหล่านี้อยู่เยอะแยะมากมาย พระเครื่อง หลายๆ ชิ้นมีส่วนของว่านผสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พระหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พระกรุทุ่งเศรษฐี พระผงสุพรรณ พระนางพญา พระสมเด็จวัดระฆัง เป็นต้น
Leave a Reply